Cardano เตรียม อัปเกรดครั้งใหญ่! “Chang Hard Fork” ปรับโฉมครั้งสำคัญในรอบสองปี

สิงหาคม 28, 2024

Cardano ซึ่งเปิดตัวในปี 2017 โดย Charles Hoskinson ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบสองปีอย่าง “Chang Hard Fork” ที่จะทำให้โครงสร้างเครือข่ายหลักมีการพัฒนาใหม่มากยิ่งขึ้น และเพิ่มกลไกให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการกำกับดูแลผ่านระบบ on-chain

โดยการอัปเกรดที่รู้จักในชื่อ “Chang hard fork” นี้ เป็นอีกก้าวสำคัญในแผนพัฒนาของ Cardano โดยเป็นการต่อยอดจากการเพิ่มฟังก์ชัน smart contracts ในปี 2021 ซึ่งเดิมที Chang hard fork ถูกกำหนดให้เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ แต่ Hoskinson ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะเลื่อนการอัปเกรดไปเป็นวันที่ 1 กันยายน เพื่อให้เวลาในการเตรียมระบบของบางแพลตฟอร์ม เช่น Binance

“เสน่ห์ของกำหนดเวลา คือทำให้คนที่ไม่จริงจังกับการอัปเกรดต้องรีบขยับตัว”

The magic of deadlines is that people who aren't taking upgrades seriously suddenly say damn we got to get moving. When they get moving, we converge quickly.

It looks like Binance and a few others need more time to get their houses in order, so the rocket is going to wait on…

— Charles Hoskinson (@IOHK_Charles) August 23, 2024

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแม้ Cardano ในปัจจุบันเป็นบล็อกเชนที่มีมูลค่าเป็นอันดับที่ 30 ตามเว็บไซต์ DeFILlama แต่มันก็ยังคงเป็นโครงการที่ได้รับความสนใจในแวดวงคริปโตอย่างมาก เนื่องจากบุคลิกที่โดดเด่นและความนิยมของ Hoskinson

ซึ่งหนึ่งในสาเหตุหลังมาจากการที่เขามักจะปรากฏตัวในวิดีโอและพอดแคสต์ Hoskinson รวมถึงเป็นหนึ่งในผู้เริ่มต้นที่ได้ร่วมพัฒนา Ethereum กับ Vitalik Buterin ในปี 2014 ก่อนที่จะแยกตัวออกจากโครงการไม่นานหลังจากนั้น

นอกจากนี้ การ Harfork ในครั้งนี้ยังได้รับความสนใจด้วยการอัปเกรดฟีเจอร์หลักที่จะทำให้ Cardano สามารถเพิ่มฟีเจอร์การกำกับดูแลผ่านระบบ on-chain ได้ โดยผู้ที่ถือ ADA จะสามารถเลือกผู้แทน (Delegate Representatives หรือ dReps) และลงคะแนนในข้อเสนอการปรับปรุง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคในอนาคตของบล็อกเชนได้อีกด้วย

และการอัปเกรด Chang ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ Voltaire Era ซึ่งเป็นยุคสุดท้ายในแผนพัฒนาโดยปัจจุบันยุค Voltaire ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เครือข่าย Cardano กลายเป็นระบบที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์ตามที่องค์กร Cardano Foundation ได้เขียนไว้ในบล็อกโพสต์

ที่มา: Coindesk