Charles Hoskinson เชื่อมั่น! อนาคต ADA ไปได้ไกล ล้มได้แม้กระทั่ง Bitcoin และ Ethereum
ตุลาคม 22, 2024 เมื่อไม่นานมานี้ Charles Hoskinson ได้กล่าวขึ้นพูดในงานอีเวนต์ Cardano Summit 2024 ที่ถูกจัดขึ้นโดยคอมมูนิตี้ ณ เมือง Bueno Aires ประเทศอาร์เจนตินา โดยเขาได้แสดงถึงวิสัยทัศน์ว่าเครือข่าย...
ตุลาคม 22, 2024
เมื่อไม่นานมานี้ Charles Hoskinson ได้กล่าวขึ้นพูดในงานอีเวนต์ Cardano Summit 2024 ที่ถูกจัดขึ้นโดยคอมมูนิตี้ ณ เมือง Bueno Aires ประเทศอาร์เจนตินา โดยเขาได้แสดงถึงวิสัยทัศน์ว่าเครือข่าย Cardano (ADA) นั้นสามารถเติบโตจนสามารถทัดเทียม หรือแม้กระทั่งสามารถเอาชนะเครือข่ายหลัก ๆ อย่าง Bitcoin และ Ethereum ได้ภายในทศวรรรษหน้า
Hoskinson ชี้ให้เห็นว่าเครือข่ายใช้เวลาเพียงแค่ 7 ปีเท่านั้นก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นเครือข่ายที่มีมูลค่ากว่าหมื่นล้านดอลลาร์ และมีผู้ใช้งานทั่วโลก อีกทั้งในปัจจุบัน Cardano ยังเป็นโปรเจกต์บล็อกเชนขนาดใหญ่ที่สุดที่ถูกผลักดันด้วยงานวิจัยต่าง ๆ มากมาย มากไปกว่านั้นเขายังได้กล่าวชื่นชมคอมมูนิตี้ที่ต่างมุ่งมั่นทุ่มเทในการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง รวมถึงสร้างความแตกต่างให้แก่ Cardano
เขาเชื่อมั่นว่าในอนาคต Cardano จะกลายเป็นแกนหลักของโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติ ที่ซึ่งรัฐบาลและสถาบันสำคัญๆ ต่างๆ ใช้เพื่อดำเนินการบริการและระบบที่สำคัญ โดยการที่จะไปถึงจุดนั้นได้ Cardano จำเป็นที่จะต้องแผ่ขยายไปในด้านของเคสการใช้งานจริง และการเป็นมากกว่าระบบการเงินทั่วไปหรือแอปพลิเคชันกระจายศูนย์
สำหรับสาเหตุที่ Hoskinson เชื่อมั่นว่า Cardano จะสามารถเอาชนะ Bitcoin และ Ethereum ได้เป็นผลมากจากคุณลักษณะของโปรเจกต์ทั้งสอง โดย Bitcoin นั้นเป็นผู้นำในด้านของการกักเก็บมูลค่า ขณะที่ Ethereum โดดเด่นในเรื่องของ DeFi และ Smart contract ซึ่งตัวของเครือข่าย Cardano นั้นเป็นการร่วมข้อดีของทั้งสองเครือข่ายเข้าด้วยกันจึงทำให้มันมีสิทธิที่จะสามารถเอาชนะทั้งสองเครือข่ายได้
อย่างไรก็ตามแม้ Hoskinson จะเชื่อมั่นในศักยภาพของเครือข่าย แต่นักวิเคราะห์กลับไม่เห็นด้วยไปสักทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น Eric Balchunas นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก Bloomberg ที่ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อทิศทางในอนาคตของ Cardano
Balchunas กล่าวว่าสถานการณ์ปัจจุบันของเครือข่าย Cardano นั้นไม่เป็นเหมือนดังที่ผู้ก่อตั้งอย่าง Hoskinson พูด และยังคงประสบปัญหาที่จะทำการแข่งขันกับบล็อกเชนที่มีผู้ใช้งานมากกว่าอย่าง Solana และ Ethereum ดังนั้นคำกล่าวอันสุดแสนทะเยอทะยานของ Hoskinson อาจเป็นการมองโลกในแง่ดีเกินไปและกล่าวอ้างเกินจริง
จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ทำให้ Cardano ช้าเป็นผลมาจากวิธีการที่พวกเขาใช้ โดย Cardano ได้นำกระบวนการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างเข้มงวดมาใช้ ซึ่งเครือข่ายได้รวมงานวิจัยทางวิชาการเข้ากับการพัฒนาเพื่อให้มั่นใจว่ามีระดับความปลอดภัยและความเสถียรสูงสุด อย่างไรก็ตาม วิธีการที่เป็นระบบนี้ก็เป็นดาบสองคมเช่นกัน ทำให้บางคนวิจารณ์เครือข่ายว่ามีอัตราการพัฒนาที่ช้ากว่าคู่แข่งที่คล่องตัวกว่า ส่งผลให้การแข่งขันของบล็อกเชน layer-1 นั้น Cardano ตามเจ้าอื่นไม่ทัน ขณะที่ราคาของ Cardano นั้นก็ไม่ได้มีการปรับตัวมากส่งผลให้ความสนใจเลือนหายไปเช่นกัน
อย่างไรก็ตามแม้ความกังวลจะมีอยู่มาก แต่ Cardano ก็ยังมีไพ่ตายซุกซ่อนอยู่และยังคงไม่พ่ายแพ้ไปง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความปลอดภัยที่ไม่มีใครเทียม ทำให้มันเป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่น่าไว้วางใจมากที่สุด รวมไปถึงการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง Babel fees ที่จะมาผลิกโฉม Cardano ให้กลับมาผงาดอีกครั้ง
ฟีเจอร์ดังกล่าวจะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถทำการชำระค่าธรรมเนียมได้โดยใช้โทเค็นหลากหลายสกุล โดยไม่จำเป็นต้องใช้เพียง ADA อย่างเดียวอีกต่อไป ทำให้เครือข่ายมีความน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น
โดยสรุปแล้ว Cardano ในตอนนี้จำเป็นที่จะต้องเร่งมือและแข่งกับเวลา โดยเครือข่ายจำเป็นจะต้องรีบพัฒนา นวัตกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้เครือข่ายยังคงความสำคัญในตลาดไว้ได้อยู่เพื่อที่จะสามารถทำให้ Cardano ยังคงยืนหยัดในสมรภูมิแห่งนี้ต่อไปได้ และกลายเป็นสุดยอดเครือข่ายตามคำกล่าวอ้างของ Hoskinson
ที่มา : Coin Paper
Cardano Catalyst Project - Discover and Vote for our proposals in Fund 13 by December 12, 2024 11:00 UTC
If you are you using your ADA to vote in Cardano’s Project Catalyst don’t forget to voice your vote. We would be excited if you can see, comment, share and vote for us. Cast your vote today, find our proposals by searching "CardanoFeed" in the Voting App.Vote for Us